การอบอุ่นร่างกาย (Warm Up) มีความสำคัญอย่างไร ทำไมต้องทำทุกครั้งก่อนออกกำลังกาย

ทำไมต้องมีการอบอุ่นร่างกาย ก่อนเริ่มออกกำลังกาย มีความสำคัญและประโยชน์ยังไงบ้าง

การอบอุ่นร่างกาย (Warm Up) นั้นถือเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม และต้องทำทุกครั้งก่อนออกกำลังกาย เหมือนกับการ Cool Down ทุกครั้งหลังออกกำลังกาย เพราะการวอร์มร่างกายนั้นจะช่วยทำให้ร่างกายอยู่ในสภาพที่พร้อม สามารถออกกำลังกายได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และยังมีส่วนสำคัญอย่างมาก ในการลดอาการบาดเจ็บหรือปวดกล้ามเนื้อหลังออกกำลังกาย ซึ่งสำหรับคนที่อยากจะทราบถึงความสำคัญของการวอร์มอัพร่างกาย บทความนี้ Sashii จะพาไปรู้จักกับการอบอุ่นร่างกายให้มากขึ้นว่าคืออะไร มีประโยชน์อะไรบ้าง และหากไม่วอร์มร่างกายส่งผลเสียอย่างไร รวมถึงบอกวิธีการวอร์มร่างกายอย่างถูกวิธี

การอบอุ่นร่างกาย คืออะไร ?

การอบอุ่นร่างกาย หรือการวอร์มร่างกาย (Warm Up) คือ การเตรียมพร้อมร่างกายให้พร้อมกับการเล่นกีฬาหรือเพื่อให้พร้อมที่จะออกกำลังกายที่หนักกว่าเดิมให้มีประสิทธิภาพที่พร้อมมากขึ้น เช่น กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น ข้อต่อ และระบบไหวเวียนเลือดหรือระบบหายใจต่างๆ การอบอุ่นร่างกายนั้นเป็นการทำกิจกรรมเบาๆ ช้าๆ อยู่กับที่ เพื่อทำให้ร่างกายมีอุณหภูมิที่สูงมากขึ้น ทำให้เหมาะสำหรับการออกกำลังกายที่มีการเคลื่อนไหวที่มากกว่าเดิมหรือให้พร้อมกับการเคลื่อนไหวในรูปแบบต่างๆ ในการออกกำลังนั่นเอง

การอบอุ่นร่างกายก่อนออกกำลังกาย สำคัญอย่างไร

เนื่องจากการอบอุ่นร่างกาย เป็นการเคลื่อนไหวอยู่กับที่เบาๆ ช้าๆ จึงอาจทำให้หลายคนไม่ให้ความสนใจและมองข้ามขั้นตอนนี้ไป เพราะคิดว่าเสียเวลา ซึ่งต้องบอกเลยว่าการอบอุ่นร่างกาย เป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม เพราะเป็นการวอร์มร่างกายมีความสำคัญเป็นอย่างมาก หากไม่มีการวอร์มร่างกายหรืออบอุ่นร่างกายก่อนออกกำลังกายจริงๆ ก็อาจทำให้นำไปสู่ปัญหาต่างๆ อย่าง การบาดเจ็บที่บริเวณกล้ามเนื้อ เพราะเกิดการฉีกขาดของกล้ามเนื้อ เพื่อป้องกันกล้ามเนื้อเกิดการบาดเจ็บก็ควรวอร์มร่างกายให้อยู่ในสภาพที่พร้อมจะออกกำลังก่อนเสมอทุกครั้งนั่นเอง

📌 คลิกอ่านเพิ่มเติม: ควรออกกําลังกายวันละกี่นาที? ให้ได้ผลและดีต่อสุขภาพ ออกกำลังกายนานๆ ส่งผลเสียอย่างไรบ้าง

การวอร์มร่างกาย มีประโยชน์อะไรบ้าง ต่อการออกกำลังกายหรือเล่นกีฬา

ประโยชน์ของการอบอุ่นร่างกาย มีอะไรบ้าง

1.ป้องกันการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อ

การวอร์มร่างกายก่อนออกกำลังกาย เป็นเรื่องที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะหากไม่มีการอบอุ่นร่างกายก่อนออกกำลังกายหรือเล่นกีฬา ก็อาจทำให้กล้ามเนื้อเกิดการบาดเจ็บหรือฉีกขาดได้ง่ายนั่นเอง

2.เพิ่มอัตราการไหลเวียนเลือด

การวอร์มอัพร่างกายก่อนออกกำลังกาย เป็นการกระตุ้นระบบการไหวเวียนเลือดให้มีประสิทธิ์มากที่ดีมากขึ้น ทำให้ออกซิเจนสามารถไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกายได้ดียิ่งขึ้น 

3.เพิ่มความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อ

เพราะการออกกำลัง เป็นการช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับกล้ามเนื้อ ลดอาการเกร็งของกล้ามเนื้อ และลดการเป็นตะคริวได้ เป็นการวอร์มกล้ามเนื้อให้พร้อมที่จะออกกำลังกาย ทำให้การออกกำลังกายมีประสิทธิ์ภาพมากขึ้นั่นเอง

4.ลดหรือบรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อ

การอบอุ่นร่างกาย แน่นอนว่าจะเป็นเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ทำให้กล้ามเนื้อมีความผ่อนคล้ายมากขึ้น จึงทำให้การอบอุ่นร่างกายหรือวอร์มอัพร่างกายช่วยบรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อได้เป็นอย่างดีนั่นเอง

5.ช่วยทำให้ระบบหายใจดีขึ้น

การวอร์มอัพร่างกายจะส่งผลดีต่อระบบการหายใจ ช่วยให้ปอดรับออกซิเจนได้ดีขึ้น เมื่อมีการออกกำลังกายก็จะช่วยทำให้ไม่เหนื่อยง่าย และสามารถออกกำลังกายได้นานขึ้นด้วย

ข้อเสียของการไม่ Warm up ร่างกาย มีอะไรบ้าง

หากไม่อบอุ่นร่างกาย อาจส่งผลเสียอย่างไรบ้าง

เนื่องจากการอบอุ่นร่างกาย เป็นสิ่งที่ควรทำและไม่ควรมองข้าม เพราะอาจทำให้เกิดผลเสียหรือส่งผลเสียต่อร่างกายได้ ดังนี้

  • เป็นการลดประสิทธิภาพในการออกกำลังกายหรือเล่นกีฬา 
  • ทำให้รู้สึกเหนื่อยง่าย หรือหายใจไม่ทันขณะออกกำลังกาย
  • อาจทำให้ร่างกายหรือกล้ามเนื้อบริเวณต่างๆ เกิดการบาดเจ็บได้
  • ร่างกายต้องทำงานหนักอย่างฉับพลัน ส่งผลเสียต่ออวัยวะภายในได้
  • กล้ามเนื้ออาจเกิดอาการเกร็ง และเป็นตะคริวได้

คลิกอ่านเพิ่มเติม:

📌 ออกกำลังกายแล้วเหนื่อยง่าย เกิดจากอะไร? มีวิธีแก้ไขอย่างไรให้เหนื่อยน้อยลง ออกกำลังกายได้นานขึ้น

📌 แนะนำ 10 เทคนิค “วิ่งยังไงไม่ให้เหนื่อย” ช่วยให้วิ่งได้นานขึ้น ไม่เหนื่อยเร็ว

วิธีอบอุ่นร่างกาย ควรเริ่มจากการเคลื่อนไหวเบาๆ แล้วค่อยเพิ่มความหนักขึ้น

วิธีการอบอุ่นร่างกาย ต้องทำอย่างไร

สำหรับวิธีการอบอุ่นร่างกาย นั้นจะต้องมีการยืดเหยียดกล้ามเนื้อและข้อต่อต่างๆ ด้วยการเคลื่อนไหวหรือขยับร่างกายเบาๆ ก่อนเริ่มออกกำลังกาย โดยปกติแล้วควรทำการวอร์มอัพร่างกายก่อนออกกำลังกายประมาณ 10-15 นาที เพื่อเตรียมความพร้อมของร่างกาย ซึ่งท่าสำหรับการ Warm up นั้นจะแบ่งออกเป็น 3 ท่าหลักๆ ดังนี้

  1. การอบอุ่นร่างกายด้วยการหมุนข้อต่อต่างๆ เช่น ข้อมือ ไหล่ คอ เอว สะโพก และข้อเท้า ด้วยการหมุนตามและทวนเข็มนาฬิกาสลับกันไป
  2. การวอร์มอัพด้วยการเคลื่อนไหวร่างกายแบบแอโรบิก เป็นการเคลื่อนไหวร่างกายในส่วนต่างๆ ด้วยการเดิน วิ่ง หรือกระโดดเบาๆ เพื่อเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจและเพิ่มอุณหภูมิของร่างกาย
  3. การวอร์มร่างกายด้วยท่ายืดเหยียดกล้ามเนื้อ ทั้งบริเวณแขน ลำตัว หัวไหล่ และขา เพื่อให้กล้ามเนื้อมีความยืดหยุ่น ช่วยลดอาการบาดเจ็บ และลดอาการปวดเมื่อยตามร่างกายหรือกล้ามเนื้อได้

มาถึงตรงนี้ก็คงเห็นถึงความสำคัญของ การอบอุ่นร่างกาย (Warm Up) ก่อนออกกำลังกายหรือเล่นกีฬากันแล้ว เพราะนอกจากจะช่วยในการยืดเหยียดกล้ามเนื้อ ยังช่วยกระตุ้นการทำงานของปอดและหัวใจ เพื่อให้ร่างกายพร้อมก่อนออกกำลังกาย ซึ่งสิ่งสำคัญในการวอร์มร่างกายอีกหนึ่งอย่างก็คือ ควรค่อยๆ เริ่มทำจากช้าๆ และค่อยๆ เพิ่มความเร็ว เพื่อป้องกันไม่ให้กล้ามเนื้อหรือร่างกายได้รับบาดเจ็บ

ก่อนการออกกำลังกายหรือเล่นกีฬา นอกจากจะต้องทำการวรอ์มร่างกายแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรมองข้าม ก็คือ การเติมพลังงานให้กับร่างกาย เพื่อให้มีแรงสำหรับออกกำลังกายนั่นเอง ซึ่งสามารถทำได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการทานอาหารก่อนออกกำลังกายประมาณ 1-2 ชั่วโมง ทานกล้วยหรือ Energy bar ที่ให้พลังงานสูง รวมไปถึงการทานอาหารเสริมเพิ่มพลังงานรูปแบบเจลลี่อย่าง SASHII ZNERGY ที่จะช่วยเติมพลัง เพิ่มความสดชื่นให้กับร่างกายก่อนออกกำลังกาย

📌 คลิกดูสรรพคุณเพิ่มเติม: ZNERGY อาหารเสริมเพิ่มพลังงาน ที่ทานง่าย ดูดซึมเร็ว ผลิตด้วยนวัตกรรมไมโครเจลจาก Sashii Brand

ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ZNERGY

ขอบคุณข้อมูลจาก : 

https://www.pobpad.com

https://hellokhunmor.com