ลูทีน คืออะไร? สาร Lutein พบมากในไหน มีประโยชน์ในการบำรุงสายตาและร่างกายอย่างไรบ้าง

ลูทีน

ปัจจุบัน ลูทีน (Lutein) ถูกพูดถึงและได้เข้ามามีบทบาทกับชีวิตของเรามากขึ้น เนื่องจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตหรือไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนแปลงไป เราเองก็คงที่จะปฏิเสธกันไม่ได้ว่าอย่างแรกหลังลืมตาตอนตื่นนอนของหลายๆ คน นั้นก็คือการเล่นโทรศัพท์ รวมถึงกิจวัตรประจำวันของเราเวลาส่วนใหญ่ก็มักจะหมดไปกับการอยู่กับหน้าจอ ซึ่งแสงสีฟ้าจากหน้าจอนั้น หากเราต้องจ้องและมองเป็นเวลานาน ๆ ก็อาจจะส่งผลให้เกิดผลเสียกับดวงตาของเราได้นั่นเอง

ซึ่งดวงตาของคนเรา ตามคำเปรียบเปรยจากโบราณที่ว่ากันว่าเป็นหน้าต่างของหัวใจ นั้นก็เป็นเรื่องที่คงจะไม่เกินจริงไปสักเท่าไหร่ เพราะดวงตาของเรานั้นมีเพียงคู่เดียวและจะคงอยู่กับเราไปตลอดทั้งชีวิต ดังนั้นการดูแลเรื่องดวงตาจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ ในบทความนี้เราจึงนำเอาข้อมูลและประโยชน์ที่น่าสนใจของลูทีน สารสกัดที่ช่วยบำรุงสายตามาฝากกัน

ลูทีน คืออะไร?

ลูทีนหรือ Lutein คือ หนึ่งในสารสกัดที่ขึ้นชื่อเรื่องของการดูแลและบำรุงสายตาได้เป็นอย่างดี เป็นสารสกัดที่อยู่ในกลุ่มเดียวกับแคโรทีนอยด์และเบต้าแคโรทีน นอกจากจะบำรุงดวงตาที่อ่อนล้าให้กลับมาแข็งแรงแล้ว ลูทีนยังมีประโยชน์ในเรื่องของการป้องกันการเกิดปัญหาหรือโรคเกี่ยวกับดวงตาต่างๆ เช่น โรคจอประสาทตาเสื่อม หรือโรคต้อกระจกได้ด้วย และนอกจากนี้ลูทีนเองก็ยังมีประโยชน์ช่วยบำรุงร่างกายในส่วนอื่นๆ ได้อีกด้วย เพราะลูทีนเป็นสารสกัดที่มีฤทธิ์ในการต่อต้านอนุมูลอิสระ จึงทำให้สามารถช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งได้ และยังครอบคลุมไปถึงโรคหัวใจและโรคเบาหวาน ถือได้ว่าเป็นสารสกัดที่ช่วยดูแลร่างกายได้อย่างครบวงจรจริงๆ

แนะนำ 10 แหล่งอาหารที่มีลูทีนสูง 

เมื่อได้ทราบแล้วว่าลูทีนคืออะไร และมีความน่าสนใจยังไงแล้ว คราวนี้เราก็จะมาพาทุกท่านได้รู้จักอาหารที่มีลูทีนสูงกันบ้าง เพื่อเป็นทางเลือกในการดูแลสุขภาพดวงตาของทุกท่านต่อไป ซึ่งอาหารที่เรามักพบลูทีนสูงก็มีด้วยกันดังต่อไปนี้

1.ผักโขม 

ผักโขมหรือในอีกชื่อหนึ่งว่าผักปวยเล้ง ถือเป็นผักใบเขียวชนิดหนึ่งที่มีลูทีนสูง ซึ่งจุดเด่นของผักชนิดคือมักนิยมรับประทานเพื่อรักษาอาการตาบอดกลางคืนในผู้สูงอายุได้ด้วยนั้นเอง ซึ่งก่อนรับประทานก็ควรจะนำไปปรุงให้สุกก่อนเพื่อหลีกเลี่ยง กรดออกซาลิกในตัวมันด้วยนั่นเอง

2.แครอท 

แครอทผักสีส้มที่สามารถนำมาประกอบอาหารได้อย่างหลากหลาย ซึ่งนอกจากที่แครอทจะให้ลูทีนที่สูงแล้ว แครอทเองก็ยังมีสารสกัดอื่นๆ อย่างเบต้าแคโรทีน วิตามินเอ และสารต้านอนุมูลอิสระ ที่สามารถช่วยในเรื่องของผิวพรรณ เส้นผมและหนังศีรษะให้แข็งแรงได้อีกด้วย

3.มะเขือเทศ 

มะเขือเทศถือเป็นผักสีแดงที่มีสารลูทีนสูง ที่คู่กันมากับสารไลโคปีน ซึ่งมีส่วนช่วยเป็นอย่างมากในเรื่องของการต้านอนุมูลอิสระช่วยดูแลป้องกันการเกิดมะเร็งและการบำรุงผิวพรรณ ช่วยให้ผิวพรรณของเราดูอ่อนเยาว์ สมวัย

4.บร็อคโคลี่ 

แม้ว่าบร็อคโคลี่จะเป็นผักที่เด็กๆ หรือใครหลายคนไม่ชอบ ด้วยรูปร่างและสีสันของมัน แต่ใครจะไปรู้ว่าเจ้าบร็อคโคลี่นี่แหละ ที่มีสารสกัดลูทีนและเบต้าแคโรทีนอยู่สูง จึงเป็นผักที่สามารถเพิ่มภูมิคุ้มกันและปรับสมดุลร่างกายให้แข็งแรงได้ แถมยังช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดต้อต่างๆ ได้ด้วย

5.ผักคะน้า 

แหล่งลูทีนที่สำคัญต่อมา ก็คือผักคะน้าผักใบเขียวที่พบเห็นได้ทั่วไปในมื้ออาหาร นอกจากจะมีรสชาติอร่อยแล้ว คะน้ายังเป็นผักที่มีแคลเซียม แมกนีเซียม แร่ธาตุต่างๆ และมีลูทีนที่สูงมากอีกด้วย

6.มะละกอ 

มะละกอผลไม้ที่หาทานได้ง่ายในประเทศไทย ราคาไม่แพง นอกจากที่จะมีส่วนช่วยในเรื่องของอาการท้องผูกแล้ว ก็ยังเป็นผลไม้อีกชนิดที่ให้ลูทีนสูง และมีประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย

7.แคนตาลูป 

แคนตาลูปเป็นผลไม้ตระกูลแตงที่มีฤทธิ์เย็น มีสารอาหารสำคัญหลายอย่าง ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือลูทีน (Lutein) ช่วยในการดับร้อนและดับธาตุไฟในตัว ช่วยขับสารพิษ รวมถึงสามารถช่วยในเรื่องของการดีท็อกลำไส้ได้ด้วย

8.ข้าวโพด 

ข้าวโพดก็ถือเป็นผักอีกหนึ่งชนิดที่มีสารลูทีนสูง แถมยังหาทานได้ง่าย มีรสชาติที่อร่อย สามารถนำมาทานสดๆ หรือประกอบอาหารได้หลากหลาย จึงสามารถทานได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ มีวิตามิน แร่ธาตุ และมีกากใยอาหารสูง

9.ถั่วลันเตา 

ถั่วลันเตาพืชตระกูลถั่วที่อุดมไปด้วยลูทีนและสารอาหารที่มีประโยชน์มากมาย มีส่วนช่วยในเรื่องของการลดความเสี่ยงในการเป็นโรคร้ายต่างๆ อันเป็นผลมาจากอนุมูลอิสระได้ดี

10.ฟักทอง 

สำหรับฟักทองพืชสีเหลืองที่เป็นแหล่งลูทีน มีประโยชน์และให้พลังงานสูง สามารถทดแทนคาร์โบไฮเดรตจากแป้งได้ มีประโยชน์ทั้งในเรื่องของการบำรุงไตและยังช่วยกระตุ้นเซลล์ที่ตายไปแล้วให้กลับมาแข็งแรงได้อีกด้วย

📌 คลิกอ่านเพิ่มเติม: 7 อาหารบำรุงสายตา ที่มีประโยชน์ต่อดวงตา ช่วยลดอาการเมื่อยล้า และลดโอกาสเกิดต้อกระจก

อาหารเสริมบำรุงสายตา ดียังไง?

ลูทีน (Lutein) มีประโยชน์อะไรต่อร่างกายบ้าง

1.ช่วยบำรุงสายตา

เนื่องจากลูทีน (Lutein) เป็นสารอาหารที่อยู่ในกลุ่มเดียวกับเบต้าแคโรทีน และวิตามินเอ จึงทำให้เด่นในเรื่องของลูทีนบำรุงสายตา โดยลูทีนจะช่วยในการเพิ่มจำนวนเม็ดสีในจอประสาทตา มีส่วนช่วยรักษาโรคจอประสาทตาเสื่อม นอกจากนี้ยังเพิ่มประสิทธิภาพการมองเห็นของดวงตา ทำให้มองเห็นในที่มืดหรือเวลากลางคืนได้ดีขึ้นอีกด้วย

2.ช่วยบำรุงสมองและระบบประสาท

ประโยชน์ที่สำคัญต่อมาของสารลูทีน ก็คือการเป็นสารอาหารที่ช่วยบำรุงสมองและระบบประสาทให้แข็งแรง ช่วยเสริมสร้างการเรียนรู้และความจำให้ดีขึ้น และช่วยป้องกันการเกิดโรคอัลไซเมอร์ในผู้สูงอายุจากการเสื่อมสภาพตามวัยได้

3.ช่วยกรองแสงสีฟ้าและป้องกันแสงแดด

เนื่องจากลูทีนอยู่กลุ่มของสารแคโรทีนอยด์และเบต้าแคโรทีน ซึ่งสารที่มีคุณสมบัติในการกรองแสงสีฟ้าและป้องกันแสงแดด รวมถึงยังช่วยป้องกันคลื่นแสงที่มีพลังงานสูงอย่างรังสี UV หรือรังสีอัลตราไวโอเลตได้อีกด้วย จึงทำให้ผิวไม่หมองคล้ำง่าย ขาวกระจ่างใส สุขภาพดี

4.ช่วยในการบำรุงหัวใจให้แข็งแรง

นอกจากประโยชน์ในด้านต่างๆ ที่ได้บอกไปแล้ว ลูทีน (Lutein) ก็ยังมีส่วนสำคัญในการช่วยบำรุงหัวใจและหลอดเลือดให้แข็งแรง ช่วยลดการสะสมของไขมันในหลอดเลือด ลดการอักเสบของร่างกาย และสามารถบรรเทาอาการของโรคหลอดเลือดแดงแข็งตัวได้

ZNERGY เจลลี่อาหารเสริมที่มีลูทีนสูง ตัวช่วยบำรุงสายตา ปรับสมดุลร่างกายและระบบประสาท

จากข้อมูลทั้งหมดที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่า เราสามารถได้รับสารลูทีนได้จากการทานอาหาร ผักและผลไม้หลากหลายชนิดเลย แต่อย่างไรก็ตามในยุคที่เราเร่งรีบและใช้ชีวิตแข่งกับเวลา การที่จะหาแหล่งอาหารดีๆ ที่มีลูทีนมาบำรุงร่างกายในทุกๆ วันก็เป็นเรื่องที่ทำได้ค่อนข้างยาก หากเทียบกับการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมลูทีนอย่าง ZNERGY จาก Sashii Brand ที่รวบรวมเอาวัตถุดิบและสารสกัดลูทีนและสารสกัดอื่นๆ ที่มีประโยชน์รวมเอาไว้ให้คุณในรูปแบบของเจลลี่ ที่สามารถทานได้ง่าย ทุกที่ ทุกเวลาที่ต้องการ เพียงเท่านี้การดูแลสุขภาพของตัวคุณก็จะไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป

ซื้อ sashii ZNERGY

แม้ว่า ลูทีน (Lutein) จะเป็นสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ทั้งในด้านการบำรุงสายตา บำรุงสมอง บำรุงหัวใจ และบำรุงผิวพรรณให้มีสุขภาพดี แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ควรทานหรือได้รับสารลูทีนในปริมาณที่มากเกินความจำเป็น เพราะอาจจะส่งผลเสียมากกว่าผลดีได้นั่นเอง โดยปริมาณลูทีนที่เหมาะสมในการบริโภคต่อวันก็คือประมาณ 7-15 มิลลิกรัมต่อวัน นอกจากนี้สตรีมีครรภ์และกำลังให้นมบุตร รวมถึงผู้ป่วยบางโรค ควรหลีกเลี่ยงการทานลูทีน ซึ่งหากจำเป็นต้องทานก็จำเป็นต้องปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อน เพื่อความปลอดภัย และหากใครกำลังมองหาผลิตภัณฑ์อาหารเสริมลูทีน ที่ทานง่าย ปลอดภัย และดูดซึมเร็ว แนะนำให้ลอง SASHII ZNERGY รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน

ขอบคุณข้อมูลจาก: www.pobpad.com