แสงสีฟ้า
ปัจจุบัน แสงสีฟ้า และอัตรายจากแสงสีฟ้าถูกพูดถึงกันอย่างมาก โดยเฉพาะทุกวันนี้ที่สมาร์ทโฟนเข้ามาเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ 5 ที่หลายคนขาดไม่ได้ ซึ่งนั่นหมายว่าในกิจวัตรประจำวันแต่ละวัน ดวงตาของเราจะต้องพบเจอกับหน้าจออยู่เป็นเวลาหลายชั่วโมง และภัยร้ายที่แฝงมาพร้อมกับการเล่นอุปกรณ์เหล่านี้ก็คือ เจ้าแสงสีฟ้าจากโทรศัพท์นั่นเอง ซึ่งนอกจากแสงจากหน้าจออิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ แล้ว แสงที่เราพบเจอในแต่วันทั้งแสงแดด หรือแสงไฟเองก็มีแสงสีฟ้าแฝงอยู่เช่นกันอีกด้วย
แสงสีฟ้า (Blue Light) คืออะไร?
แสงสีฟ้า หรือ Blue Light คือ แสงสีฟ้าที่มาจากหน้าจอต่าง ๆ ซึ่งเป็นแสงที่มีความยาวคลื่น 400 – 450 นาโนเมตร ซึ่งสามารถสะท้อนเข้าดวงตาของมนุษย์ได้โดยตรงหรือกระทบผ่านสิ่งของต่างๆ เพื่อเข้ามาสู่ดวงตาของเราได้ หลายคนก็อาจจะมีความสงสัยกันว่าแสงสีฟ้าทำลายดวงตาของเราได้อย่างไร ซึ่งคำตอบของเรื่องนี้ก็สามารถอธิบายผ่านทางหลักการทางวิทยาศาสตร์ได้ว่า
แสงสีฟ้านั้นถือเป็นแสงที่มีความเข้มข้นสูงกว่าแสงสีชนิดอื่นๆ และที่สำคัญในอุปกรณ์ต่างๆ ที่เราใช้นั้นส่วนใหญ่ไม่สามารถที่จะป้องกันเราจากแสงนี้ได้ ซึ่งในระยะยาวหากเรามีความจำเป็นต้องใช้ดวงตาจ้องแสงสีฟ้าเป็นเวลานานก็อาจจะทำให้เกิดปัญหาหรือความผิดปกติต่อดวงตาได้
แสงสีฟ้า มาจากไหน?
สำหรับแหล่งที่มาหรือแหล่งกำเนิดของแสงฟ้าหลักๆ แล้วจะมาจาก 2 แหล่ง คือ แสงธรรมชาติอย่างแสงจากดวงอาทิตย์ ซึ่งถือเป็นแหล่งกำเนิดแสงที่มีความเข้มข้นสูงที่สุด แหล่งต่อมาจะเป็นพวกอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เช่น แสงสีฟ้าจากโทรศัพท์ จอคอมฯ แทบเล็ต หรือจอทีวี เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่เราต้องพบเจอในทุกๆ วัน และไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
อันตรายจากแสงสีฟ้า มีอะไรบ้าง
นอกจากที่แสงสีฟ้าอันตรายโดยตรงต่อดวงตาของเรา ทำให้ดวงตาของเรามีอาการเมื่อยล้า แสบเคืองตา ตาแห้งและตาพร่ามัวได้หากจ้องหน้าจอเป็นเวลานานๆ แสงสีฟ้าก็ยังสามารถส่งผลกระทบทางอ้อมเกี่ยวกับเรื่องการนอนหลับและการพักผ่อนของเราได้อีกด้วย เพราะเมื่อดวงตาได้พบกับแสงสีฟ้าอยู่ตลอดเวลานั่นจึงทำให้นาฬิกาชีวิตเปลี่ยน ซึ่งเป็นกลไกในการควบคุมการตื่นนอนและการนอนหลับนั้นเกิดแปรปรวน จนทำให้เรามีปัญหานอนไม่หลับ และไม่สามารถทำกิจวัตรได้เป็นปกติ จนในที่สุดร่างกายก็อาจจะมีผลเสียต่อในทางอ้อมได้นั่นเอง รวมหากปล่อยไว้นานๆ ยังอาจทำให้เกิดโรคเกี่ยวกับดวงตา เช่น โรคจอประสาทตาเสื่อม หรือโรคต้อกระจกได้อีกด้วย
11 วิธีป้องกันดวงตาจาก อันตรายของแสงสีฟ้า
แน่นอนว่าหากเราไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยงการเจอแสงสีฟ้า (Blue Light) และอันตรายจากแสงสีฟ้าได้โดยตรง แต่เราสามารถลดความรุนแรงจากผลกระทบที่จะเกิดขึ้น หรือป้องกันอันตรายจากแสงสีฟ้าด้วยวิธีต่างๆ ได้ ซึ่งวิธีการป้องกันอันตรายจากแสงสีฟ้าและการดูแลตัวเองดวงตาของเรา จะมีดังนี้
1.กะพริบตาบ่อยๆ
การกะพริบตาเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ง่ายที่สุดที่ทุกคนจะสามารถทำได้ แต่น้อยคนนักที่จะตั้งใจและทำมันอย่างสม่ำเสมอ เพราะเมื่อเราจดจ่ออยู่กับหน้าจอบ่อยครั้งเราก็มักจะเกิดอาการเหม่อ หรือลืมกะพริบตาได้ ซึ่งนั่นก็อาจเป็นสาเหตุให้แสงสีฟ้าเข้าไปทำอันตรายต่อดวงตาจนเกิดอาการตาแห้งได้นั่นเอง
2.จำกัดเวลาในการใช้หน้าจอ
เราเข้าใจว่าข้อนี้สำหรับใครหลาย ๆ คนแล้วก็เป็นอีกข้อที่สามารถทำได้ยาก แต่อย่างไรก็ตามเวลาในการใช้หน้าจอในแต่ละวันของเราควรจะมีการจำกัด ซึ่งหากเราพักเวลาในการดูหน้าจอมาหากิจกรรมอย่างอื่นทำ เราก็จะได้มีเวลาอยู่กับตัวเองและปลอดภัยจากแสงสีฟ้าได้อีกด้วย
3.หาอุปกรณ์ป้องกัน
ในปัจจุบันในหลาย ๆ บริษัทก็ได้ออกนวัตกรรมมาเพื่อป้องกันดวงตาเราจากแสงสีฟ้า อย่างเวลาที่เราใช้หน้าจอคอมพิวเตอร์ การใส่แว่นกรองแสงสีฟ้า หรือติดฟิล์มกรอง Blue Light ก็จะสามารถช่วยลดแสงสีฟ้าลงไปได้
4.ปรับพฤติกรรมในการใช้หน้าจอ
หลายคนไม่รู้ตัวว่าเวลาที่เราเล่นโทรศัพท์หรือใช้คอมพิวเตอร์ ตัวเรามักเผลอจ้องหรือเอาอุปกรณ์เหล่านั้นมาใกล้ดวงตามากจนเกินไปซึ่งนั้นก็ยิ่งทำให้แสงสีฟ้าสามารถทำอันตรายต่อดวงตาได้มากยิ่งขึ้น ดังนั้นเราจึงควรขยับตำแหน่งของหน้าจอให้ห่างจากดวงตาประมาณ 20-40 นิ้วเพื่อความปลอดภัยของดวงตาของเรานั่นเอง
5.หาต้นไม้หรือของตกแต่งที่ช่วยพักสายตา
แน่นอนว่าสีเขียวถือเป็นสีแห่งความผ่อนคลาย ซึ่งหากดวงตาของเราเกิดล้าจากการใช้จอเป็นเวลานาน การหาอุปกรณ์ตกแต่งจึงถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยให้คุณพักสายตาได้
6.ปรับความสว่างหน้าจอให้พอดี
หลายคนเข้าใจผิดว่าหน้าจอที่สว่างมากเกินไปเพียงเท่าที่จะสามารถทำอันตรายต่อดวงตาได้ แต่แท้ที่จริงแล้วหน้าจอที่มืดไปหรือสว่างไปก็สามารถทำอันตรายได้เท่านั้น ดังนั้นเราจึงควรปรับหน้าจอให้เหมาะสม
7.ขนาดตัวอักษรต้องมีขนาดที่พอเหมาะ
การปรับลดขนาดตัวอักษรให้พอดีไม่เล็กจนเกินไปจะช่วยให้ลดอาการเพ่งของดวงตา ทำให้ลดการจ้องจอได้มากยิ่งขึ้น
8.ควรพักสายตาอยู่เสมอ
การทำงานแน่นอนว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่การพักก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญเช่นเดียวกัน นอกจากจะเป็นการรีเฟรชร่างกายของตนเองแล้วก็ยังเป็นการช่วยลดความอ่อนล้าของดวงตาได้อีกด้วย
9.ทำความสะอาดหน้าจอให้สะอาดอยู่เสมอ
การที่หน้าจอสกปรกก็จะยิ่งทำให้คุณต้องจ้องหน้าจอมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นอันตรายต่อดวงตาด้วย
10.สวมใส่แว่นตากรองแสงสีฟ้า
แว่นตาโดยทั่วไปมักจะไม่มีเลนส์สำหรับกรองแสงสีฟ้า ดังนั้นหากเราต้องการที่จะลดแสงสีฟ้าที่เข้ามาในดวงตาของเราก็ควรเลือกแว่นให้เหมาะสมกับการใช้งานด้วย
11.เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อดวงตา
นอกจากที่เราจะป้องกันแสงสีฟ้าจากภายนอกเรา การดูแลด้วยการทานอาหารก็ยังคงเป็นวิธีการดูแลรักษาดวงตาจากภายในสู่ภายนอกที่ได้ผลดี ซึ่งเราควรเลือกอาหารบำรุงสายตาที่มีสารสกัดที่ดีอย่างการทานอาหารที่มีเบต้าแคโรทีน ลูทีน ซีแซนทีน วิตามินเอสูงก็จะช่วยดูแลดวงตาของเราให้แข็งแรงได้ด้วยเช่นกัน
ZNERGY อาหารเสริมวิตามิน บำรุงสายตา ช่วยป้องกันแสงสีฟ้า
ในการป้องกันแสงสีฟ้าและดูแลรักษาดวงตาที่ดี นอกจากจะป้องกันภายนอกแล้ว การบำรุงดวงตาจากภายในก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เพื่อเสริมสร้างดวงตาของเราให้มีสุขภาพดี ซึ่งตัวเลือกหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน ก็คือการทานผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่มีส่วนผสมที่ช่วยในการบำรุงสายตาอย่าง ZNERGY จาก Sashii Brand ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมวิตามินรูปแบบไมโครเจล ที่อัดแน่นไปด้วยคุณประโยชน์จากสกัดที่จำเป็นในการบำรุงดวงตา เช่น วิตามินเอ วิตามินซี ลูทีน โคเอนไซม์คิวเทน เบต้าแคโรทีน และอื่นๆ อีกมากมาย ที่ช่วยดูแลดวงตาของคุณที่อ่อนล้าจากแสงสีฟ้าให้กลับมาแข็งแรง ออกแบบมาในรูปแบบของเจลลี่ที่มีรสชาติอร่อยถูกปาก และสามารถทานได้ง่าย ดูดซึมได้อย่างรวดเร็ว
แม้ว่า แสงสีฟ้า (Blue Light) จะเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เพราะในทุกๆ วันเราต้องพบเจอกับแสงต่างๆ มากมาย ทั้งแสงแดด แสงจากหลอดไฟ และที่ใกล้ตัวเราที่สุดก็คงหนีไม่พ้นแสงจากหน้าจอมือถือ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่แทบทุกบ้านต้องมี แต่ถึงอย่างนั้นเราก็สามารถป้องกันอันตรายจากแสงสีฟ้าที่ส่งผลเสียต่อดวงตาของเราได้ ด้วยการใช้อุปกรณ์ที่ช่วยป้องกันแสงแสงฟ้า เช่น แว่นกรองแสง Blue Light หรือฟิล์มติดหน้าจอ รวมถึงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้งานหน้าจอ และการทานอาหารเสริมที่ช่วยในการบำรุงสายตาอย่าง SASHII ZNERGY ก็จะสามารถช่วยลดผลกระทบจากแสงสีฟ้า และช่วยให้ดวงตาของเรามีสุขภาพดีได้ – อยากรู้ว่า ZNERGY ดียังไง? 👉 คลิกที่นี่